เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักเธอคนนี้กันดีอย่างแน่นอน สำหรับนางเอกสาวซุปตาร์ “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” เธอเป็นนักแสดงและนักร้องหญิงชาวไทย ที่มีผลงานทั้งทางละคร เพลง และภาพยนตร์ทั้งไทยและอินเดีย เธอได้เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ได้รับการชักชวนโดยบังเอิญจากแมวมอง ขณะเดินเล่นกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง
โดยเริ่มจากการถ่ายโฆษณา มีผลงานแรกคือ โซนีไตรนิตรอน และมีผลงานอีกหลายโฆษณา เริ่มงานละครทางช่อง 3 เรื่อง “ไฟในดวงตา” รับบทเป็นลูกของจันทร์จิรา จูแจ้ง
หลังจากนั้นมาเล่นละครกับทางช่อง 7 เรื่องแรกคือ “วันนี้ที่รอคอย” ส่วนละครที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักคือ “ดาวพระศุกร์” รับบทเป็นดาวพระศุกร์ตอนเด็ก
ล่าสุดกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับ Forex-3D หลังเคยเป็นกระเด็นใหญ่เมื่อปีพ.ศ.2562 เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว พิ้งกี้ สาวิกา ในฐานะเป็นแบรนแอมบาสเดอร์
และลงนามเซ็นสัญญาในฐานะผู้ร่วมทุน แม้เธอจะเคยให้การปฏิเสธมาตลอดตั้งแต่ชั้นสอบสวน สุดท้ายก็กลายเป็นจำเลยในคดีนี้ ทำให้ต้องถูกคุมตัวเข้าเรือนจำไปตั้งแต่ช่วงวันก่อน (18 ส.ค.)
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อช่วงปี 2564 พิ้งกี้ เคยเปิดใจในรายการ แฉ กับบทเรียนราคาแพง หลังต้องสูญเงินกว่า 10 ล้านบาท เพราะ Forex 3d
ทำให้ต้องมาขายของ ทำอะไรทดแทน เพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ ยอมรับไม่คิดให้ดี เอาเงินส่วนตัวที่เก็บหอมรอมริบไว้ 3-4 ปีที่ผ่านมา ลงหมดหน้าตัก สุดท้ายพังทลาย
ในรายการ มดดำ คชาภา พิธีกร แซวเป็นเงินที่เก็บสะสมช่วงไปแต่งงานมีสามี ใช้ชีวิตที่ทุกคนเข้าไม่ถึง เอามาลงหมดเลย 8 หลัก สุดท้ายต้องกลับมารับละครอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่บอกจะไม่รับละครแล้ว
พิ้งกี้ ถึงกับหัวเราะลั่น นั่งแทบไม่ติด หลังโดนจี้จุด ก่อนจะร้องเพลง เดินอยู่กลางลมฝน สู้ทนฟันฝ่า แซวตัวเองบ้าง และยอมรับว่า มันเป็นจังหวะชีวิต คนเราต้องเจ็บก่อน บางทีจะไม่เห็นความสุขที่สุด ถ้าเราไม่ทุกข์มาก่อน
ถามว่าเสียเงินเป็นสิบล้านเครียดไหม พิ้งกี้ บอกว่าไม่เครียด ถามอีกว่าแม่ปล่อยมาได้ยังไง เจ้าตัวก็เผยว่า คนเราบางทีมันหน้ามืด เราก็มองไม่เห็น สิ่งที่เราคิดว่าใช่แล้ว มันไม่ใช่ บางทีเราต้องมองไกลไปอีก ถือว่าไม่เป็นไร เริ่มต้นใหม่
และในช่วงที่สถานการณ์ระบาดจากโควิด-19 ชีวิตติดอยู่กับบ้าน ทำให้ พิ้งกี้ ได้ค้นพบอาชีพใหม่ที่สนุก และทำรายได้อีกช่องทางหนึ่ง คือการเป็นแม่ค้าออนไลน์
แถมรายได้จากการขายของวันหนึ่ง ได้มากกว่าที่เล่นละคร 1 ตอนเสียอีก ก็รับงานได้เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะรับได้ เราเลือก
และจัดสรรเวลาให้ได้ ทั้งเวลาทำงาน เวลาพัก เวลาไลฟ์สด ต้องบาลานซ์ทุกอย่างให้ดี ไม่ปล่อยทิ้งเวลาให้สูญเปล่า อะไรทำได้ก็ทำ
ใครที่รู้สึกว่าบางคนเราทำงาน เราโดนเปลี่ยนงาน ไม่รู้ทำอะไร เราต้องลองทำ พร้อมทำ เพราะอนาคตไม่แน่นอน ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น
พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช