ไม่มีสิทธ์เลือก

สาวิกา ไชยเดช มีชื่อเล่นว่า พิ้งกี้ เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ที่โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร ในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นบุตรคนเล็กจากทั้งหมดสามคนของสมาน กับสรินยา ไชยเดช มีพี่ชายอีกสองคน สาวิกามีเชื้อสายไทย, อังกฤษ, จีน, มอญ และปากีสถาน เธอกล่าวว่าสมาน บิดาของเธอเป็นมุสลิมที่มีเชื้อสายจีน

ล่าสุดกำลังเป็นอีกหนึ่งกระแสที่สังคมกำลังจับตามอง และติดตามทุกการเคลื่อนไหวในขณะนี้ หลังจากที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวดาราสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช และคุณแม่ เพราะกลัวว่าทั้งคู่อาจจะหลบหนีได้และใน 5 วันแรก ราชทัณฑ์ห้ามเยี่ยม แม้กระทั่งทนายความ เพราะต้องกักตัวตามมาตราการป้องกัน

ล่าสุด (19 ส.ค.) ทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดาได้มีการรายงานข่าว หลังดาราสาว พิ้งกี้ กับคุณแม่นอนที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นคืนแรก ซึ่งพบว่าทั้งสองมีความเครียดเล็กน้อย และมีการพูดคุยให้กำลังใจกันระหว่างแม่บุตรตลอดเวลา “ส่วนในเช้าวันนี้พบว่า ทั้งสองคนมีความเครียดน้อยลง และยังคง

พูดคุยให้กำลังใจกันอยู่ โดยในเช้านี้ยังสามารถรับประทานอาหารเป็นข้าวสวยกับแกงจืดได้ ทั้งสองคนจะต้องอยู่ในแดนกักตัวอีก 5 วัน ก่อนที่จะเข้าสู่แดนแรกรับ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ซึ่งในเบื้องต้นทัณฑสถานหญิงกลางได้เตรียมผู้ต้องขังพี่เลี้ยงคอยดูแลสภาพจิตใจของทั้งสองคน ส่วนการตรวจร่างกาย

เบื้องต้นไม่พบว่าอะไรและแม่ของพิงกี้ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง” สำหรับ พิงกี้นั้นถือเป็นนักแสดงที่มากความสามารถ เธอมีเส้นทางชีวิตในวงการมายามาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยมี แม่อ้อย สรินยา ไชยเดชเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการดันบุตรเข้าวงการตั้งแต่อายุยังน้อย ผลงานชิ้นแรกคือ การถ่ายสินค้า ก่อนจะเริ่ม

ขยับเข้าสู่วงการมายาเล่นละคร โดยรับเล่นเรื่องแรกให้กับช่องน้อยสี เรื่อง “ไฟในดวงตา” รับบทเป็นบุตรของ ตุ๊ก จันทร์จิรา จูแจ้งหลังจากนั้นมาเล่นละครกับทางช่องหลากสีเรื่องแรกคือ “วันนี้ที่รอคอย และทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จัก ณ ตั้งแต่ตอนนั้น ในฐานะดารารุ่นเยาว์ จากนั้นพิงกี้ก็มีละครเรื่อยมาไม่ขาดสาย

สำหรับผลงาน เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ได้รับการชักชวนโดยบังเอิญจากแมวมอง ขณะเดินเล่นกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง[3][16] โดยเริ่มจากการถ่ายโฆษณา มีผลงานแรกคือ โซนีไตรนิตรอน และมีผลงานอีกหลายโฆษณา เริ่มงานละครทางช่อง 3 เรื่อง

“ไฟในดวงตา” รับบทเป็นลูกของจันทร์จิรา จูแจ้ง หลังจากนั้นมาเล่นละครกับทางช่อง 7 เรื่องแรกคือ “วันนี้ที่รอคอย” ส่วนละครที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักคือ “ดาวพระศุกร์” รับบทเป็นดาวพระศุกร์ตอนเด็ก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

 

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ต่อมามีผลงานเพลงในปี พ.ศ. 2543 สังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ออกอัลบั้มเพลงแนวป็อป วง “บั๊ก บันจี้” (Bug Bunji) กับเพื่อนอีก 3 คน คือวนัสนันท์ ธรรมบูรณะวงษ์, ธัชชา พุ่มอ่อน และเจนนิเฟอร์ ชวโนวานิช

พ.ศ. 2544 สาวิกากลับมาเล่นละครเรื่อง “ปิ่นไพร” จากนั้นมีผลงานเรื่อง “กษัตริยา” รับบทมณีอินทร์ มเหสีของพระเอกาทศรถ และยังมีละคร “น้องเหมียวเขี้ยวเพชร” หลังจากเกิดปัญหาพิพาทเรื่องความสัมพันธ์กับสัญชัย เองตระกูลช่วงปี พ.ศ. 2553

เธอมีผลงานในวงการภาพยนตร์กอลลีวูดระยะหนึ่งคือเรื่อง Markandeyan จนในปี พ.ศ. 2555 เธอได้กลับมาแสดงละครไทยอีกครั้งรับบทนางเอกในละครเรื่อง ทองประกายแสด และพลิกบทบาท เป็นนางร้ายครั้งแรก ในละครเรื่อง มารยาริษยา

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

 

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

ไม่มีสิทธ์เลือก

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3dIZBBA