ประกาศเลิกปั้นดารา

ศุภชัย ศรีวิจิตร มีชื่อเล่นว่า เอ หรือ เอเอ ทำงานคนเบื้องหลังวงการบันเทิง เป็นผู้จัดการนักแสดงชาวไทย ศุภชัยเติบโตมาในสังคมชนบทที่อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านของเขาทำสวนยางพารา มีบิดาประกอบอาชีพครู ศุภชัยมีเชื้อสายจีนจากมารดา ศุภชัย ศรีวิจิตร

ล่าสุดมานี่เองค่ะ สำหรับ “เอ ศุภชัย” ประกาศไม่ปั้นดาราแล้ว เจ็บช้ำในบางเรื่อง เผยเส้นทางนักปั้นมือทอง ปีนรั้วโรงเรียนหา “ณเดชน์” ควายไล่ขวิดเพราะ “กัน เดอะสตาร์”

ได้เงินก้อนแรก 8 พันจาก “อั้ม พัชราภา” จนเป็นไอเดีย ทุ่มเงินโมดิฟายหน้านางเอก ไม่ทันได้ถอนทุนคืน อีกฝ่ายก็ชิ่ง แต่เข้าใจว่าลำบาก พร้อมเคลียร์ชัดๆ แอบรักเด็กในสังกัดบ้างไหม

เป็นนักปั้นมือทองที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเหล่าซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ล่าสุด “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ประกาศกลางรายการแฉ วันที่ 29 ส.ค. ว่าต่อจากนี้จะไม่ปั้นดาราแล้ว ขอใช้ชีวิตให้มีความสุข พร้อมย้อนเส้นทางนักปั้นมือทอง นางเอกคนหนึ่ง ทุ่มเงินล้านโมดิฟายหน้า แต่ไม่ทันได้ถอนทุนคืน ก็ไปจากตนเสียแล้ว

“ดูนางเอกในจอทีวี ยังไม่ทันได้ถอนทุนค่าหน้าคืน แต่ไปแล้ว ก็ทำใจ 6 เดือนหน้าเขาสวย เขาก็ไป ไม่ทันถอนทุนคืน ด้วยเหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจอยู่กับเราแล้วมายด์เซ็ตไม่ตรงกัน เขาอาจมีมายด์เซ็ตตรงกับที่อื่นมากกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เรามีตังค์แล้ว

คิดว่าเขาคงลำบาก ถ้าไม่ลำบากเขาคงไม่ดิ้นรน จะปั้นดาราคนนึงถามว่าใช้เงินเท่าไหร่ ค่าหน้า 3-4 ล้านก็หมด บางคน 7 ล้านก็มี บางคนทุบหน้า 4 รอบ บางคนจมูกทำ 5 รอบ 10 รอบก็มี”

ไม่ปั้นดาราแล้ว สภาวะจิตใจไม่ทนต่อความเจ็บช้ำในบางเรื่อง“ไม่ปั้นดาราแล้ว มันเหนื่อย อยู่ตรงนี้มา 25 ปีเต็มๆ สภาวะจิตใจบางทีไม่ทนต่อความเจ็บช้ำในบางเรื่องได้

อยากมีความสุขแล้ว อยากใช้เงินที่หามา ทำประโยชน์เพื่อสังคม ใครมีปัญหาเดินมาบอกได้เลย ช่วยได้เราก็ช่วย เจออะไรมาเยอะ คิดบวก ถ้ามีมายด์เซ็ตบวกๆ อบอุ่น สบายใจดี คิดเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดี เราก็มีความสุข

เมื่อก่อนไม่นอนเลย นอนวันละชม. ต้องออกไปเที่ยว เราทำอาชีพปั้นดารา เด็กก็ชอบเที่ยวกัน อาร์ซีเอ ข้าวสาร ตอนนี้คนถามว่าทำไมไม่ไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน เพราะชีวิตที่ผ่านมา นับจำนวนนอนคืนนึงได้ สมัยพี่ป๋อ ณัฐวุฒิ ถ่ายละครถึงเช้า

พี่อั้ม พัชราภาถ่ายแม่นาค เราผ่านชีวิตตอนนั้นมาหมดแล้ว ก็คิดว่าฉันต้องเป็นแบบนี้จนตายเหรอ จำนวนวันทุกวันที่อยู่ต้องแก้ปัญหาของคนทุกคน เหมือนพ่อแม่มีลูก 3 คน ปัญหาไม่ใหญ่เท่าปัญหาที่เอแก้ ถ้าเจอภาวะแบบนี้หนักๆ กลัวภาวะซึมเศร้าจะเข้ามาหาตัวเรา

บางคนโดนตีหน้าก็เอามารักษา ใส่ฟัน เซ็นสัญญากันวันนี้ รุ่งเช้าจะมา เขารู้ว่าจะมาเป็นเด็กในสังกัดเอ ศุภชัย ก็จ้างคนมาทุบหน้าเลย ไม่ได้ทุบหน้าศัลยกรรมนะ ทุบให้หน้าเละเลย ไม่ต้องให้เอ ศุภชัยปั้น ต่อยจนฟันเละหมดเลย เราก็เอามาซ่อม เราเซ็นสัญญาไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ”เผยเห็นแค่ครึ่งหน้า “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็รู้ทันทีว่าเจอเพชร ปีนรั้วโรงเรียนเข้าไปหาจนยามไล่จับ


“เพื่อนจะชอบส่งรูปผู้ชายหล่อๆ มาให้เรา เวลาส่งมาปุ๊บ อย่างส่งรูปณเดชน์มา รูปแรกในชีวิต ตอนอยู่ ม.3 เห็นหน้าปุ๊บไม่ได้เลย บินเลยค่ะ ถ้าเราไม่บินตอนนี้ คนอื่นก็บินก่อนเรา หน้า

ขนาดนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เห็นรูปตอนสิบโมง เที่ยงก็บินเลย เห็นแค่ครึ่งหน้าก็รู้อนาโตมี่หน้าหมดเลย รู้ถึงขั้นว่าหน้าตอนอายุ 30 เป็นยังไง เราทิ้งไม่ได้ เหมือนเจอเพชร เราไปปุ๊บก็ไปรอหน้าโรงเรียน

น้องณเดชน์เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ เขาไม่ให้เข้า เราก็ปีนรั้วเข้า ยามจับ เราเห็นเด็กคนนี้วิ่งอยู่ก็ปีนแล้วเรียกหนูๆ ครั้งแรกที่เขาเจอเรา เขากลัว เขาบอกให้คุยกับคุณแม่ แล้วบ้านณเดชน์อยู่ซอยเดียวกับเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารส) ก็ให้คุณแม่เวียร์พาไปบ้านณเดชน์ ก็เลยได้คุยกับแม่แก้ว”

เหนื่อยมากกว่าจะลากเวียร์มาเป็นพระเอกได้“เวียร์ก็ไม่เชื่อ เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก กว่าจะเอามาเป็นดารานักแสดงได้ แกไม่ได้อยากทำงานด้านนี้ แกอยากเป็นวิศวะ แต่คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ชอบเวียร์มาก ส่งรูปไป เขาก็บอกให้พามาดูตัว เวียร์ก็ไม่มา เขาไม่ชอบสายนี้ เราก็โทร.ไปคุยกับคุณแม่เวียร์

แม่บอกว่าเดี๋ยวแม่ช่วย ก็พาเวียร์มา ด้วยความที่เขาไม่อยากเป็นดารา เขาใส่รองเท้าแตะ ทำยังไงก็ได้ให้ผู้ใหญ่ไม่เอา เราฉลาดแกมโกง เอาช่างหน้าช่างผม ดักรอที่สนามบินดอนเมืองเลย คอสตูมเตรียมไว้เลย เวียร์ลงเครื่องปุ๊บก็ลากเวียร์ช่างหน้าช่างผมประโคมเลย”

ปั้นคนหนึ่งคนไม่ง่ายกว่าจะได้เป็นซูเปอร์สตาร์“การปั้นดารามันง่าย แต่การปั้นของเอ 1 คนคือ 1 ชีวิต คนที่ไม่ซักเซสหลายคน เรารับผิดชอบเขาแล้ว ทุกวันนี้ยังเลี้ยงดูแลอยู่เลย ส่งเรียนทุกคน ถ้าคนไม่สำเร็จก็ส่งเรียนให้เขาได้ประกอบอาชีพกว่าคนนึงจะเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ เหมือนการปั้นแบรนด์ 1 แบรนด์

เราต้องรู้ก่อนว่าคนนี้โจทย์เราจะให้เป็นนางเอก พระเอก หรือตัวร้าย ถ้าโจทย์เป็นพระเอก ต้องสวยต้องหล่อ ต้องร้องเพลงเพราะ น้องๆ ต้องเกรดเอจริงๆ ถ้าของที่เรามีไม่ดีที่สุดเขาก็ไม่เลือก ฉะนั้นของที่เรามีต้องเป็นเพชรจริงๆ เขาถึงเลือก ถ้าของที่เรามีเท่าคนอื่น เขาก็เลือกคนอื่น

เพชรของเรา บางคนเขาหล่อเพอร์เฟกต์มาแล้ว อย่างเวียร์ – ณเดชน์ไม่ต้องทำอะไรเลย เขาแค่ดัดฟันเท่านั้นเอง แต่บางคนตาตกก็ยก จมูกก็ต้องทำ มีรุ่นถลกก็มี อย่างเด่นคุณ งามเนตรต้องเปลี่ยนชื่อ 10 ชื่อ

แล้วค่าทำฟัน รูดทีละล้านๆ จ่ายทีเดียว จ่าย 4 ล้าน”ฮามาก ใส่ชุดแดงไปหา “กัน เดอะสตาร์” โดนควายไล่ขวิด“ปั้นกัน เดอะสตาร์ วิ่งไปสุพรรณฯ เลย ควายไล่ขวิดเลย ใส่ชุดแดงไป เราไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ในทุ่งนาขนาดนั้น”

“อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” จุดประกายไอเดียเป็นนักปั้น“ส่วน อั้ม พัชราภา เราเป็นเด็กในสังกัดเขา ไม่ใช่เราปั้นเขา เขาเป็นรุ่นน้องเราที่ม.รังสิต เขาเริ่มเข้าวงการแล้ว เขาเห็นเราว่างงาน ก็บอกว่ามาดูแลฉันสิ จะให้เดือนละ 8 พัน จะพอกินไหมเนี่ย ค่าน้ำมันยังไม่ค่อยพอเลย พี่อั้มก็บอกว่าเธอก็ไปปั้นคนอื่นด้วยสิ นี่เป็นไอเดียที่พี่อั้มให้มา

ก็เลยไปปั้น ป๋อ ณัฐวุฒิ , แองจี้ เอสติ้ง , โน้ต วัชรบูล, ปู ไปรยา ตอนแรกน้องเบเบ้ ธันย์ชนก ก็อยู่กับเรานะ เราบอกว่าเบเบ้ขา เราไม่ขอหักเงินลูกแล้วได้ไหม ทำไมลูกเป็นคนดีแบบนี้ ให้เงินแม่ตลอด ต้องบอกกเขาเองว่าไม่ต้องให้แล้ว”

ตอบชัด เคยแอบชอบเด็กที่ตัวเองปั้นบ้างไหม“วิธีการเลือกดาราเป็นนักแสดงในสังกัด ต้องถูกจริต ถามว่าแอบชอบคนที่ตัวเองปั้นไหม ทุกคนเราก็ต้องชอบก่อน แต่เรามีขอบเขตในการชอบ ถามว่าเคยเกินขอบเขตไหม ชอบเด็กตัวเองไหม ไม่มีเลยค่ะ”

ประกาศเลิกปั้นดารา

 

ประกาศเลิกปั้นดารา

 

ประกาศเลิกปั้นดารา

 

ประกาศเลิกปั้นดารา

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3cyQaVd