ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

ธิติ มหาโยธารักษ์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา ปัจจุบันจบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ล่าสุด แบงค์ ธิติ เล่าชีวิตไม่ง่าย เบื้องหลังที่หลายคนมองเป็นลูกคุณหนู ทายาทเจ้าของโรงแรม ความจริงต้องหาเงินเดือนละล้านกว่า ใช้หนี้เพื่อครอบครัว มองเป็นหน้าที่ เพราะพ่อแม่อยากทำไว้ให้ลูก

เป็นดาราหนุ่มหล่อที่มีผลงานในวงการบันเทิงมากมาย และยังเป็นทายาทเจ้าของโรงแรมที่ขอนแก่น ทำเอาหลายคนมองว่าพระเอกหนุ่ม แบงค์ ธิติ มีชีวิตดีจนน่าอิจฉา มองว่ามีชีวิตแบบคุณหนู แต่ล่าสุดเมื่อได้เห็นคลิปที่หนุ่มแบงค์เปิดใจในรายการ วันบันเทิง TALK ก็ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดกันไปเลย

ทั้งนี้ แบงค์ ธิติ เผยว่า ภายนอกคนมองอย่างนั้น แต่ความจริงอาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ ภายนอกบ้านเรามีธุรกิจ มีโรงแรม 4-5 แห่ง แต่ข้างหลังบ้านมันอาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนที่คนเห็นข้างนอก

แบงค์เล่าว่าพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนที่มีเงิน ชีวิตที่ผ่านมาของพวกท่านไม่เคยสบาย สู้มาตลอดจากที่ไม่มีอะไรเลย ตั้งใจจนสามารถมีธุรกิจอพาร์ตแมนต์และโรงแรมหลายแห่ง ซึ่งแบงค์ในวัยเด็กก็ยังคงจำช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ผ่านมาได้

แบงค์บอกว่าพ่อแม่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดิ้นรนให้เรามีชีวิตที่ดี พอสร้างแมมมอธ 1 ก็เอาไปเข้าธนาคาร ไปกู้เพื่อหาเงินมาสร้างแมมมอธ 2 จนตอนนี้มีถึงแมมมอธ 4 คือตอนแรกเป็นอพาร์ตเมนต์รายเดือน แล้วขยายจนกลายเป็นโรงแรม เป็นการบริหารเงินที่ไม่รู้เขาทำยังไงเหมือนกัน สุดท้ายก็มาถึงจุดที่ต้องจ่าย

ทุกวันนี้แบงค์ต้องหาเงินจ่ายธนาคารประมาณ 7 หลัก ต่อเดือน คือเดือนละประมาณล้านกว่าบาท เพราะที่กู้มามันมีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ที่ทำงานในวงการบันเทิงมา 8-9 ปี ไม่เคยได้เก็บเงินของตัวเอง เพราะต้องเอาเงินทุกบาทไปช่วยเหลือครอบครัว เพราะรายจ่ายแต่ละเดือนมันเยอะมาก

สำหรับแบงค์ คำว่าลูกคุณหนูมันไม่ใช่เลย เงินที่หามาได้ส่วนใหญ่ก็เอามาใช้หนี้ให้ครอบครัว แต่ตนก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะมองว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำมาทั้งหมด ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเลย ถ้าทุกอย่างหายไป มันไม่ได้เกิดอะไรกับตัวเขา เพราะเขาทำมาเพื่อลูก

แบงค์รู้สึกว่าสุดท้ายทรัพย์สินทั้งหมดก็จะตกเป็นของตนและน้อง เพราะแม่เขาทำไว้ให้แล้ว เขาเคยบอกว่าอยากทำบางสิ่งบางอย่างทิ้งไว้ให้ลูก เลยรู้สึกว่าถูกแล้วที่เราจะช่วยเขา

เพราะมันเป็นหน้าที่ของเรา เขาเลี้ยงดูเรามาจนโตมาขนาดนี้ และซัพพอร์ตเราเสมอ ไม่เคยห้ามไม่ให้เราทำอะไรที่อยากทำเลย คิดว่านี่แหละคือการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่

อีกความคิดคือ แบงค์พยายามบอกพ่อแม่เสมอว่า “ผมไม่ต้องมีก็ได้นะ” อยากให้พ่อแม่เลิกทำงานได้แล้ว ให้พักผ่อน มาใช้เงินได้แล้ว เขาทำงานมาตั้งแต่เด็ก จนอายุ 50-60 ยังไม่มีโอกาสใช้เงินเลย

เขาเป็นคนประหยัดมาก ไม่เคยสุรุ่ยสุร่าย แบงค์เลยคุยกับพ่อแม่ว่า เราขายไหม ถ้าขายทุกอย่างแล้วใช้หนี้ เราก็เหลือ คือถ้าเอาเงินที่หาได้มา โดยไม่ต้องมาใช้หนี้หรือจ่ายดอกเบี้ยแบบตอนนี้ ตนสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้สบายมาก จากรายได้ในการเป็นนักแสดงที่หามาทั้งหมด

แต่ทุกอย่างในตอนนี้ก็เหมือนการลงทุน เพราะสุดท้ายเมื่อหนี้สินทุกอย่างหมด ก็ยังเป็นรายได้ของเราในอนาคต เลยเป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่อยากทิ้งไว้ให้ลูกได้มีทรัพย์สินเหลืออยู่ เผื่ออนาคตไม่สามารถมีงานแสดงแล้ว เขาบอกมันคือเบาะที่จะรอรับในวันที่ลูกตกลงมา

เรียกว่าเป็นอีกมุมที่คนไม่เคยรู้มาก่อนของชีวิตลูกกตัญญู แบงค์ ธิติ ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำเอาคนที่ได้ชมรายการต่างก็ชื่นชมในตัวหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก โดยสามารถติดตามเรื่องราวของเขาแบบเต็ม ๆ ได้ทางรายการ วันบันเทิง TALK EP.14

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

 

ชีวิตไม่ง่าย แบงค์ ธิติ

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3BRbPlp