หยาด ถึง พิ้งกี้

จากกรณีที่มีรายชื่อ เมฆ รามา รัศมีรามา สามีนักแสดงสาว หยาด หยาดทิพย์ ราชปาล เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ห้องชุดเลขที่ 61/125 ชั้นที่ 36-37 อาคารเลขที่ เอ ชื่ออาคารชุด รอยซ์ ไพรเวท เรซิเดนซิซ (ROYCE Private Residences) ราคากว่า 245 ล้านบาท

 

ที่ทางคณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งอายัดไว้ชั่วคราวเพราะเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวโยงกับ อภิรักษ์ โกฎธิ

 

ผู้ต้องการฉ้อโกงประชาชนกรณีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ออกมาทำให้หลายคนเข้าใจไปว่า เมฆ รามา สามีหยาดเป็นนอมินีรับโอนทรัพย์สินจากอภิรักษ์ จนเมฆ รามาต้องออกหนังสือชี้แจงด่วน ว่าไม่เป็นความจริง ล่าสุดหยาดทิพย์ก็ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ผ่านรายการแฉ

พร้อมเผยถึงเพื่อนสนิท พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ที่ได้คุยกันก่อนที่อีกฝ่ายจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ 1 วัน ยอมรับว่าช็อกไปเหมือนกัน แต่ก็รู้ข่าวพร้อมทุกคน ก่อนหน้านี้ไม่ได้ออกงาน ไม่ได้ออกไปไหน

เราก็ค่อนข้างเป็นเรื่องเซนซิทีปหลายๆ อย่างของเราด้วย เราไม่อยากพูดอะไรเยอะกับพิ้งกี้เขาเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ ครั้งสุดท้ายที่คุยกับกี้ ก่อนหนึ่งวันที่เขาเข้าเรือนจำ ช่วงหลังเราจะทำยูทิวบ์ด้วยกัน

พอ 3-4 เดือนหลังเราค่อนข้างเจอกันบ่อยมาก เพราะเรานัดคุยงาน ตัดต่อ หลายอย่าง อาทิตย์นึงคุยกันหลายวัน เพราะทำยูทิวบ์คู่กัน เพิ่งทำได้ไม่กี่เทปเอง ก็มีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา คืนก่อนหน้าที่จะถูกส่งไป ก็ยังได้คุยกันอยู่เรื่องงาน

กระแสสังคมถามหาหยาดค่อนข้างเยอะตอนนั้น แต่หยาดรู้พร้อมทุกคน รู้จากข่าวตอนนั้นที่ออก พร้อมทุกคน ตอนที่รู้หยาดก็ช็อก มันพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกถาโถมเยอะมากๆ ด้วยตอนนั้น ตอบในฐานะของเพื่อน จากข่าวต่างๆ หรือจากเรื่องการกระทำความผิด หรือคดีความต่างๆ หยาดเข้าใจตรงนั้น แต่ขอตอบในความรู้สึกของคนเป็นเพื่อนก่อน เราใจหาย ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ได้แต่สอบถามคนใกล้ตัว ซึ่งก็คือพี่เต้ ผจก.กี้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้อะไรเลย เราไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

ณ ตอนนั้น รู้ทุกอย่างผ่านข่าว เขียนจดหมายส่งหาพิ้งกี้ แต่อีกฝ่ายยังไม่ตอบกลับมา หลังกี้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ได้แค่เขียนจม.ส่งไปที่นั่นที่เขาอยู่ แต่เป็นจม.ออนไลน์นะคะ เป็นระบบของทางเรือนจำเขียนส่งไปเรื่อยๆ แต่กี้ยังไม่ได้ตอบค่ะ ก็ทำได้แค่นั้นค่ะ นี่ก็เดือนนึงแล้ว หยาดก็ไม่ได้ทราบอะไรนอกจากนั้น มีโอกาสคุยกับคนไปเยี่ยม แต่ขอไม่ตอบแล้วกันเนอะ เพราะหยาดเองก็ไม่ได้มีชื่อเป็นคนที่ไปเยี่ยมได้ ต้องเป็นคนที่เขาให้เยี่ยมค่ะ

โต้พิ้งกี้เป็นคนหาสามี เมฆ รามามาให้ ช่วงหลังจากที่มีกระแสออกมา มีข้อมูลหลายเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องจริงไม่พอ บิดเบือนไปหมดเลย อย่างพี่เมฆรู้จักกันผ่านเพื่อนสนิทของเราทั้งคู่

เพื่อนสนิทเราทั้งคู่เป็นกลุ่มที่เราเจอกันแทบทุกอาทิตย์ ไม่เกี่ยวกับกี้เลย ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เป็นเพื่อนของเมฆ และเพื่อนของหยาดนอกวงการที่แนะนำ ตั้งแต่คบกันมากับพี่เมฆ 4 ปี พี่เมฆเคยเจอกี้ 2-3 ครั้ง แล้วที่พี่เมหเจอกี้คืองานวันเกิดหยาด ซึ่งเพื่อนมาเป็นกลุ่มใหญ่ เขาแทบไม่รู้จัก ไม่ได้เจอกันเลย เวลาหยาดเจอกี้ก็ออกไปเจอข้างนอก

จริงๆ หยาดสนิทกับกี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทำงานมาด้วยกัน แต่มีช่วงที่เราห่างกันเพราะอยู่คนละช่อง แต่เราจะเจอกันตามงาน แต่เราไม่ได้แฮงค์เอาต์ส่วนตัว จนช่วงเขาหย่าแล้วกลับมาทำงาน บ้านเขา กับคอนโดหยาดอยู่ไม่ไกล บางทีเขาก็โทร.มาถามว่าทำอะไร ไปไหนไหม ออกมาไหมมาเจอกัน จะได้ไม่เหงา ก็เลยเริ่มกลับมาสนิทกันค่ะ แต่รายการที่ทำด้วยกันเพิ่งเริ่มทำได้ 3 อีพี ใจหายพูดเรื่องคอนโด แต่ยืนยันสามีซื้อก่อนอภิรักษ์ถูกจับและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เรื่องคอนโด ใจหาย ตอบไปก็..เห็นภาพก็แบบ …คอนโดสามีหยาด เป็นของอภิรักษ์มาก่อนค่ะ อันนี้ถูกต้อง แต่ว่าข้อมูลที่เขาเขียน ที่เหลือที่ไม่ถูกต้องมันมีเยอะมาก คือหนึ่งต้องอธิบายว่าคอนโดนี้ พี่เมฆ สามีหยาดเขาซื้อมาก่อนที่คนชื่ออภิรักษ์จะถูกจับ และดำเนินคดี หรือก่อนเขาหนีไปต่างประเทศทุกอย่าง ณ ตอนนั้นพี่เมฆเขาจะซื้อคอนโด เราหาคอนโดที่ใหญ่ขึ้น แล้วเราก็ดูโลเกชั่น เราก็ดูเพนต์เฮ้าส์สามสี่ที่ มีนายหน้ามาเสนอเรา และมีห้องนี้ด้วย เราไปดูแหละ สุดท้ายเราก็ชอบที่นี่

เพราะโลเกชั่นมันได้ พอชอบที่นี่ พี่เมฆก็ไปที่คอนโด มีนายหน้ามีอะไรไปทุกอย่าง ตัวหยาดกับอภิรักษ์เกิดมาหยาดไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว เพิ่งรู้จักเพราะเป็นข่าว ส่วนพี่เมฆไม่รู้จักอภิรักษ์มาก่อน เขาไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เขาไม่เคยเจอกัน จนกระทั่งพี่เมฆจะซื้อคอนโดนี้แล้ว เขาได้เข้าไปดู และเจอคนนี้ที่เป็นเจ้าของ ก็เจอผ่านๆ เหมือนเขาเปิดห้องให้ดู ทุกอย่างเป็นการดูและซื้อขายผ่านนายหน้า

หลังจากนั้นพี่เมฆจะซื้อก็เจออีกครั้งเดียวที่กรมที่ดินตอนโอนห้องกัน แค่นั้นเองค่ะ” แรงมากถูกหาว่าเป็นนอมินี ข่าวจะอยู่อีกนาน หวั่นกระทบกับลูกระยะยาว ที่บอกว่าเป็นนอมินีอภิรักษ์ ข่าวแรงมากค่ะ มันไม่ใช่เลยค่ะ แล้วมันกระทบหลายเรื่อง เหมือนที่หยาดชี้แจงว่า สามีหยาดไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แล้วเราก็ยังยืนยันว่าตอนเราซื้อ เราซื้อถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง มีหลักฐานยืนยันทุกอย่างที่พิสูจน์ได้ ระยะเวลาที่ซื้อ เราซื้อก่อน ตอนนั้นที่ซื้อเจ้าของห้องเก่าเขายังเป็นคนที่ทำงานถูกกฎหมาย เราก็ไม่รู้ว่าวันนึงเวลาผ่านไปแล้ว บ้านที่เราจะซื้อมาอยู่

วันนึงผ่านไป เจ้าของคนนี้ดันโดนคดีฉ้อโกง แล้วกลายเป็นว่ามาเขียนโยงว่าเรารับซื้อของโจรหรือเปล่า เป็นนอมินีหรือเปล่า ซึ่งมันไม่ใช่เลยค่ะ ตอนนี้กระทบเยอะ หนึ่งคือสภาพจิตใจ เพราะมันหลายระลอก มาหลายระลอกในหลายๆ เรื่อง สองคือกระทบกับลูก เพราะบางเพจ บางสำนัก บางหัวข้อข่าว เขาพาดหัวโดยเอารูปลูกหยาดลง รูปสามี รูปลูก และลงพาดหัวในรูป แล้วใช้คำว่าเราเป็นนอมินีหรือเราเป็นผู้กระทำความผิดในคดีฟอเร็กซ์

ซึ่งหยาดรู้สึกว่าข่าวพวกนี้มันอยู่ไปอีกนาน ลูกหยาดก็ยังเด็ก จะกระทบกับเขาในระยะยาว มีชื่อของเขา หน้าเขา จะอยู่กับข่าวนี้ โดยที่ครอบครัวเราเป็นคนกระทำความผิดเหรอ ซึ่งจริงๆ เราไม่ได้ทำอยู่ได้แต่ขายต่อไม่ได้จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น “คอนโดตอนนี้เราอยู่ได้ ตอนนี้ต้องบอกตามตรงว่าเรามีการชี้แจง

ได้มีการพูดคุยเรื่องเอกสารหลักฐานที่เรามีอย่างถูกต้องแล้ว แต่ว่าทางกฎหมายเขาได้อายัดไว้ แต่อายัดไว้ในที่นี้ หมายความว่าเราห้ามขายต่อไปให้คนอื่น สามีหยาดไม่สามารถขายให้ใครต่อได้ ณ ตอนนี้ แต่เราอยู่ได้อย่างถูกต้อง จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น ถ้าเป็นเรื่องตัวเราคนเดียว ดีเอสไอก็ออกมาพูดว่าไม่พบว่าเรากับสามีเกี่ยวข้องกับคดี คือถ้าเป็นเรื่องตัวเราคนเดียว หยาดไม่ได้รู้สึกซีเรียสหรือเครียดกับมันขนาดนี้ แต่ตอนนี้เราเครียดมากๆ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว

พอมีลูกมีครอบครัว เรารู้สึกว่ามันส่งผลกระทบเยอะมากๆ ค่ะ สามีเครียดถูกโยงข่าว ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ พี่เมฆทำธุรกิจโรงแรม และพวกอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่อยู่ภูเก็ต เขาไม่ค่อยออกสื่อ เขาก็มีโซเชียลบ้าง แต่ไม่อัปไม่อะไร ทุกวันนี้ถ่ายรูปเขาก็ยังเขินๆ อยู่เลย

ณ ตอนแรกที่ข่าวออกมา เขางงว่ามันเกี่ยวโยงกับเขาได้ไง เพราะเขาไม่ได้อ่านข่าวอะไรเยอะมากเกี่ยวกับวงการ วันแรกที่งง วันที่สองข่าวเริ่มหนักขึ้นๆ จากที่งงกลายเป็นเครียดแล้ว เขาก็ไม่เคยเจอเนอะ ว่ามีชื่อตัวเองอยู่ในข่าวขนาดนี้ เขาไม่ใช่คนในวงการบันเทิงค่ะ จริงๆ หยาดไม่ได้อยากออกมาพูดอะไรเยอะ เหมือนมีสองอย่าง หนึ่งเป็นความรู้สึกของความเป็นเพื่อน สองเรื่องคดีความเราก็เข้าใจกระบวนการกฎหมาย

เราเห็นใจผู้เสียหายเหมือนกัน สามเกี่ยวกับครอบครัวเรา ที่วันนี้ออกมาพูดเพราะกระทบครอบครัวเราหนักมากเลย บางคนอาจไม่ได้อ่านข่าวทั้งหมด อาจอ่านแค่พาดหัวแล้วส่งผลระยะยาวกับครอบครัวกับลูก เลยออกมาชี้แจง ขอยืนยันว่าทางครอบครัวเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ forex-3D คอนโดที่ซื้อเราทำถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนเจ้าของมีคดีฉ้อโกงออกมา ยืนยันว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3R54Rxj