โจ้อี้ นะหน้าทอง

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของเขาคนนี้กันมาบ้างอย่างแน่นอน สำหรับ โจอี้ ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ หนุ่มร็อกเสียงดี

สายเลือดอีสานข้นๆ จาก เมืองร้อยเอ็ด ที่ฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางสู่ความฝันของเขามุ่งมั่นไม่เคยยอมแพ้

“โจอี้” จบการศึกษาจาก ม.ราชภัฎร้อยเอ็ด สาขาดนตรีไทย ทำให้สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้อย่างชำนาญคือ กีตาร์ และ พิณ เป็นคนขี้อาย อารมณ์ดี

และมองโลกในแง่บวกเสมอ โดยเปิดตัวด้วย “ดวงเดือน” เพลงแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวค่าย Genie Records

ล่าสุด เพลง “นะหน้าทอง” เพลงใหม่ ยอดวิวทะลุ 10 ล้านวิว และมาแรงอันดับ 1 หมวดเพลง ใน Youtube

ล่าสุดกลายเป็นศิลปินที่มาแรงมากๆ ในนาทีนี้เลย สำหรับ โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของเพลงฮอต 100 ล้านวิว “นะหน้าทอง”

ซึ่งกว่าชีวิตเขาจะมีวันนี้ได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัดสินใจทิ้งอาชีพรับราชการครูมาทำตามฝันการเป็นนักร้อง เข้าวงการให้ครอบครัวภาคภูมิใจ

ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ถึงความสำเร็จของเขาในวันนี้

3 เดือน 100 ล้านวิว รู้สึกยังไง?
“ก็เป็นปรากฏการณ์ในชีวิตเราเลยไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือในชีวิตเราเลย เพราะเราก็เพิ่งจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยจะมีผู้ติดตามมีชื่อเสียง

และพอเพลงนี้เหมือนมันพลิกจากเมื่อก่อนที่เราไม่ได้เป็นที่รู้จัก ตอนนี้ “นะหน้าทอง” ก็ทำให้เป็นที่รู้จักเกินความคาดหมายไปมากถือว่าเร็วมากสำหรับเรา เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน จนมีคนต่างชาตินำไปคัฟเวอร์ด้วย”


กระแสตอบรับดีมาก?

“ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนขอให้เราร้องเพลงนี้ จนตอนนี้คิวงานยาวมาก ยาวไปจนถึงปีหน้าเลย ซึ่งเพลงนี้สายมูก็จะชอบเป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของเราก็มูด้วยด้วยการเปลี่ยนชื่อ ตอนเข้าวงการแรกๆ จาก “จักรกฤษ ขำจิต”

และเปลี่ยนเป็น “ภูวศิษฐ์ อนันต์พรศิริ” ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ต้องลงมือทำด้วยมันต้องควบคู่กัน ส่วนคนที่แนะนำให้เราไปมูเตก็คือมาดามาริสา พาไปเปลี่ยนเราก็ต้องดูก่อนว่าทำไมชื่อเดิมถึงใช้ไม่ได้”

ก่อนหน้านี้ทำอาชีพครู?
“ก่อนที่เราจะมาเป็นนักร้องเราก็ทำอาชีพครูมาก่อน ซึ่งเด็กๆ ก็จะชอบพูดว่าเราไม่ได้สอนเลยเล่าแต่นิทานให้ฟัง และส่วนมากเราก็จะให้เด็กทำกิจกรรมก่อนเรียนอย่างเช่น เล่านิทานให้ฟัง

ซึ่งเด็กๆ ก็ชอบ แต่ตอนนี้ขอบเบรกอาชีพครูไว้ก่อน เพราะว่าเริ่มหนักอาชีพร้องเพลงแล้ว เหมือนกลายเป็นว่าสิ่งที่เราทำตอนนี้เราถนัดสุดแล้วคือการร้องเพลง”

“เหมือนเราได้เป็นตัวเองจริงๆ พอไปประกวดร้องเพลงที่เดอะวอยซ์ ได้ร้องเพลงที่เราอยากทำ และพอได้ทำจริงๆ ตอนไปช่วงแรกฝันของเราคือการได้ออกทีวีให้ยายเห็น ซึ่งยายคงจะดีใจถ้าได้เห็นเราอยู่ในทีวี แต่พอไปจริงๆ แล้วอยู่ในรอบลึกมันไม่ธรรมดาแล้ว

เพราะคิดว่าเราไปต่อได้แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหนเพราะเราไม่ได้เซ็นสัญญา ซึ่งคุณยายก็ได้เห็นตามที่เราตั้งใจไว้แล้วในตอนนี้เขาก็ปลื้มใจ ส่วนคุณแม่ก็ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่”

พูดกับคุณแม่ว่ายังไง หลังตัดสินใจเลิกอาชีพครูมาเป็น เป็นนักร้อง?
“ผมกับแม่และตากับยายที่บ้านเราก็อยู่กันแค่นี้ เขาก็ถาม ซึ่งเขาก็เปิดใจยอมให้เราเป็นเลยอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้ค้าน โชคดีที่เขาสนับสนุน ดีใจมากเขาเป็นคนสบายๆ

ทุกวันนี้เขาภูมิใจกับเรามากแค่ไหนก็ไม่เคยถาม แต่ว่าเราจะทำให้แม่ภูมิใจมากกว่า ซึ่งเขาก็ทำให้เห็นมาตลอด ด้วยการที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ก็ดูแลทั้งหมดทั้งบ้าน”

โจอี้ ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ

โจอี้ ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ