จากกรณีเมื่อวันอังคารที่ 23 กันยายน 2557 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต แต่ปรากฏว่า ใบปริญญาบัตรที่จะทรงมอบให้บัณฑิตคนที่ 3 จากสุดท้ายนั้นตกลงพื้น
บัณฑิตคนดังกล่าวได้ก้มลงเก็บใบปริญญาบัตร แล้วถวายความเคารพก่อนเดินออกไป แต่สมเด็จพระเทพฯ ทรงเรียกและกวักพระหัตถ์ ให้บัณฑิตคนดังกล่าวกลับมา และนำใบปริญญาบัตรถวายคืน สมเด็จพระเทพรัตนฯ ก่อนที่พระองค์พระราชทานใบปริญญาบัตรให้อีกครั้ง พร้อมกับแย้มพระสรวลให้
ขณะนั้น บัณฑิตที่เข้ารับมอบใบปริญญาถึงกับน้ำตาไหลซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันสูงสุด ที่มีต่อบัณฑิตมหาวิทยาลัยทักษิณ และคลิปดังกล่าวได้มีผู้เข้าชมจำนวนมากต่างปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับพิมพ์ข้อความ “ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”
ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค จนทำให้นักท่องเน็ตอยากทราบว่า บัณฑิตท่านนั้นเป็นใคร และมีความรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ประทับใจดังกล่าว
กระทั่งมีการสืบหาจนทราบว่า หนุ่มคนดังกล่าว คือ นายอภิสิทธิ์ จันทรัตน์ หรืออูฐ อายุ 35 ปี ทำงานตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าหิน อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งปริญญาตรีที่ได้รับนั้น จากหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต สาขาการปกครองท้องถิ่น
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์วันนั้น “นายอภิสิทธิ์” จำได้แม่นยำว่า กำลังจะยื่นมือรับพระราชทานใบปริญญาจาก สมเด็จพระเทพฯ แต่ปรากฎว่าใบปริญญาได้ตกลงที่พื้น แม้ตนจะตกใจแต่ก็ได้ก้มลงเก็บ และทำความเคารพ ถอยหลังเดินไปตามที่ได้ซักซ้อมมา
ระหว่างนั้นก็เห็นว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงกวักพระหัตถ์ พร้อมรับสั่งว่า “มารับใหม่นะลูก” เมื่อได้ยิน ตนเองก็ซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล แต่ไม่กล้าที่จะเดินกลับไป เพราะกำลังอยู่ในขบวนการรับพระราชทานปริญญาบัตร แม้จะเป็น 3 คนสุดท้าย จนมหาดเล็กมาเรียกให้กลับไปใหม่ และได้เห็นพระองค์ทรงแย้มพระสรวล
ก่อนจะพระราชทานปริญญาให้ใหม่อีกครั้ง ตนถึงกับน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจในพระมหากรุณาธิคุณ เพราะหากพระองค์ไม่ทรงเรียก ตนเองก็พลาดที่จะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน
จากที่ได้พยายามร่ำเรียนมาตลอด 4 ปี เพื่อให้ครอบครัวได้ภาคภูมิใจ และได้นำความรู้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นต่อไป และทุกวันนี้ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อหลับตายังคงเห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านทรงแย้มพระสรวลตลอด
กรมสมเด็จพระเทพฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ
ขอขอบคณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3UvkvVC