ไลฟ์สไตล์หรูภรรยาเก่า อภิรักษ์

และล่าสุดตอนนี้ก็ได้มีการค่อยๆ ทยอยเปิดรายชื่อกันออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีมหากาพย์แชร์ลูกโซ่ FOREX-3D และหนึ่งในนั้นที่หลายคนกำลังพูดถึงให้ความสนใจนั่นก็คือ (ภคมน สีกุน จำเลยที่ 16) อดีตภรรยา “อภิรักษ์” ซีอีโอ FOREX-3D ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยชื่อเป็น จิ๊กกี๋ ชนกวนันท์ และปัจจุบันได้ถูกคุมตัวไปดำเนินคดีพร้อมกับกลุ่มของนางเอกพิ้งกี้ สาวิกา แล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด เพจ รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex 3d ได้เปิดเผยข้อมูลของ ภคมน โดยมีรายละเอียดดังนี้

..หลายคนที่เพิ่งมาติดตามคดี ก็จะสงสัยว่า คนนี้คือใคร?

กู๋กี๋ เป็น ภรรยาของ CEO forex 3D สมัยก่อน ชื่อ ชนกวนันท์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น ภคมน สีลุน

กู๋กี๋ ขึ้นชื่อมากในเรื่องความไฮโซ รถก็ขับ Aston Martin รุ่น DB 11 เปิดตัวคันละ 29 ล้านบาท ส่วนเสื้อผ้า ก็เน้น ต้องมี Logo เห็นชัดๆ แบรนด์ที่ กู๋กี๋ โปรดปรานเป็นพิเศษ ก็ หลุยส์ วิตอง ซื้อและใส่ทั้งตัวจนนึกว่าไปเหมาของปลอมมาจากโรงเกลือ

กู๋กี๋ นั้นระหองระแหงกับ CEO มาสักพักแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ CEO ไปคั่ว นางแบบเกาหลี(ลุงสนธิ บอกจ่ายค่าตัวคืนละ 500,000) , เนตไอดอล ระดับ1 ล้าน follower(ได้ค่าตัวเป็นปอร์ช 1 คัน) และคนหลังสุดเป็นเมียน้อยนักศึกษา(ได้บีเอ็มไป 1 คัน)

ตั้งแต่ระหองระแหงกู๋กี๋ก็ย้ายออกมาอยู่คอนโด ตรง Noble Ploenchit (ติด BTS เพลินจิต) เวลา อารมเซ็งๆ ก็จะเดินมาช้อปปิ้งที่ Central Embassy ซึ่งผมเคยไปสะกดรอยตามไปอยู่เหมือนกัน

กู๋กี๋ ไม่มีหัวธุรกิจแบบ CEO ทำอะไรก็ทำไม่เป็น เน้นใช้เงินเก่งอย่างเดียว กู๋กี๋ เคยอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เลย เปิดแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่ ชื่อ “Jessica” (เพื่อนๆ ชอบเรียกกู๋กี๋ ว่า จิ๋กกี๋ เลยพ้องมาเป็น jessica)

โดยที่ กู๋กี๋ ขอเงิน CEO (จริงๆ ก็เงินกูนั่นแหละ 555) ไปหลายร้อยล้านเพื่อมาปั้นแบรนด์นี้ กู๋กี๋ ทุ่มเทมากกับโปรเจคเครื่องสำอางค์นี้โดยไปว่าจ้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางค์ที่เกาหลี มาผลิดพวก ลิปสติก กับเมคอัพ ให้ แล้วก็ทุ่มเงินมหาศาลจ้าง เก้า สุภัสรา, เบลล่า ราณี มาเป็น brand ambassador

กู๋กี๋ ทุ่มเงินไปมหาศาลเพื่อจะยกระดับแบรนด์ Jessica โดยใช้ดาราระดับแถวหน้าของประเทศ มาโปรโมท เลยปรากฎว่าเจ๊งยับบบช่วงสุดท้ายของแบรนด์ Jessica พวกลิปสติกต่างๆ ก็ถูกนำมาเทขายเป็นสินค้าตลาดนัด เหลือแท่งละ 60 บาท เงินทุนหลายร้อยล้านที่ กู๋กี๋ เอามาสร้างผลิตภัณฑ์ นี้ สร้างยอดขายได้ไม่ถึง 1 ล้านบาทด้วยซ้ำแต่กู๋กี๋ก็ไม่แคร์เพราะไม่ใช่เงินมันนี่หว่า 5555555

กู๋กี๋ มีความสุขกับการใช้เงิน CEO มหาศาล (อาจจะเป็นแม่แบบให้คุณใบเตยก็ได้นะฮะ) ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถ ใช้แบรนด์เนม หรือแม้แต่บ้านที่อยู่ ในช่วงแชร์วงแตกกู๋กี๋น่าจะคิดว่าตัวเองรอดจากการโดนคดีฉ้อโกงประชาชน เพราะกู๋กี๋ไม่มีดาวน์ไลน์สักคนไม่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท ที่อภิรักษ์ใช้หลอกหลวง (คงคิดว่า ไม่ชวน = รอด สไตล์เดียวกับ พ่อแมน แม่ใบ)

เวลาไปออกงานสังคม ต่างๆ คงอ้างว่ากูเป็นเมียเฉยๆ กูไม่รู้เรื่อง ส่วนเงินที่ได้จากผัว CEO กู๋กี๋ คงให้ทนายอ้างว่า ผัวให้โดยเสน่ห์หาก็ผัวรักผัวหลงอะ พอ CEO โดนจับ และเริ่มมีการอายัด บัญชีต่างๆ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง กู๋กี๋ ก็ย้ายตัวเองออกจากคอนโดที่เพลินจิตกลับไปอยู่บ้านแม่ของตัวที่จันทบุรี

สักพัก ก็กลับมาคบกับคุณปราบปฎล (กู๋กี๋ มีปราบ เป็นที่ปรึกษาทางใจมาตลอดเวลา อยู่แล้วช่วงที่ระหองระแหงกับ CEO) ภาพ DSI ยึดรถที่ บ้านคุณปราบ รถคันนั้น ก็เป็น ของกู๋กี๋เอง เดี๋ยวคุณปราบคงออกมาแถลงการณ์ ประมาณ ว่า

“ผมไม่รู้ นี่หว่า ว่ารถนี้ได้มาจากเงินผิดกฎหมาย ก็เด็ก(กู๋กี๋)มันขับมาขอจอดที่บ้านผม จะให้ผมไล่ให้เด็ก มันไปจอดรถที่ลานตากข้าวเปลือกแทนหรอครับ”

แต่จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ แจ้งมาว่า กู๋กี๋ได้เอาเงินสด และทองคำหลักร้อยล้าน ทยอย ยักยอกออกมาจากตู้เซฟของCEO แต่ผมก็ไม่รู้นะว่า เงินและทรัพย์สินพวกนี้ จะไปอยู่ที่ไหนกัน อิอิ…