ดุสิตา อนุชิตชาญชัย เกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2519 ที่กรุงเทพมหานคร โดยเป็นลูกเดียวของครอบครัว และมีชื่อจริงคือ ณภชณก อนุชาติชาญชัย สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสตรีวรนาถ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จากวิทยาลัยเซนต์จอห์น ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
หายหน้าหายตาไปนานแต่ยังเป็นที่คิดถึงและยังเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ วงการบันเทิงมาโดยตลอด สำหรับนางร้ายหน้าสวยจิ๊บ ดุสิตาก็โบกมือลาวงการบันเทิหันไปเป็นนักกีฬาพูลทีมชาติ ซึ่งเจ้าตัว เผยว่า เป็นเหมือนจังหวะและโอกาสในชีวิต ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตนเข้าวงการเร็ว
ตั้งแต่ยังเรียนไม่ทันจบ ทำให้ไม่ได้ลองทำอะไรนอกจากเล่นละคร ร้องเพลง ซึ่งกีฬาเป็นอะไรที่ชอบอยู่แล้ว เมื่อได้มีโอกาสกลับมาเล่นก็ทำให้รู้สึกสนุก“นักกีฬาเป็นโอกาสที่เข้ามา ตั้งแต่จิ๊บโตมา
ยังไม่เคยทำอะไรอย่างอื่น ซึ่งเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนสมัยก่อน เราไม่เต้น ไม่อะไรนะแต่จะบอกเพื่อนขอร้านที่มีโต๊ะพูลนะ เวลาเราไปเล่นแล้วชนะด้วยความที่เป็นผู้หญิง พี่ผู้ชายเขาก็จะชอบเข้ามาดู จนมีพี่คนหนึ่งมาชวนไปแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย
พอได้โอกาสลองทำดู จนได้มีโอกาสไปเก็บตัวเป็นทีมชาติ เกือบ 1 ปี ฝึกทุกอย่าง ตั้งแต่ 09.00-16.00 น.จะซ้อมสนุ๊ก จากนั้นก็จะไปซ้อมพูลต่อถึง 23.00 น.ทุกวัน เราอยากทำให้เต็มที่ ในเมื่อมีโอกาสแล้ว” จิ๊บ
ยังเล่าประสบการณ์การเป็นนักกีฬาพูลทีมชาติ ให้ฟังด้วยว่า เวลาซ้อมแม้จะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เวลาลงแข่งจริงจะเหลือเพียง 60-70 เปอร์เซ็นต์ แม้จะสนุกกับการเป็นนักกีฬาถึงกับหันหลังให้วงการบ้นเทิง แต่ล่าสุด จิ๊บ ยอมรับว่า
ได้เริ่มถอยห่างออกมา ด้วยอายุที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น อีกทั้งเมื่อมาเริ่มตอนอายุมากแล้วทำให้กล้ามเนื้อไม่ยืดหยุ่นพัฒนาได้ยากแต่ยังเป็นตัวแทนผลักดันให้ผู้หญิงหันมาเล่นกีฬาชนิดนี้ให้มากขึ้นช่วงก่อนที่จิ๊บเล่น
ไม่มีแบ่งหญิงชายทำให้ต้องแข่งกับผู้ชาย เราก็สู้ไม่ได้อีกอย่างเราเข้าเล่นตอนอายุเยอะแล้ว ฝึกต้องฝึกตั้งแต่เด็ก จิ๊บเล่นด้วยท่าทางที่ผิดมาเป็น 10 กว่าปี อีกทั้งยังเคยติดสิ่งไม่ดีหนักมาก จนต้องยอมหักดิบ
เพื่อที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ มีหลายสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอีกทั้งเจ้าตัวได้เผยสถานะหัวใจในวัย 45 ไว้ว่า คบกับคนนอกวงการมา 4 ปีแล้วค่ะเป็นรุ่นพี่อายุมากกว่า 2 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว เจอกันมาก่อนที่จะไปติดทีมชาติ รู้จักกันมานานแล้ว แต่พอติดทีมชาติเลยได้เจอกันบ่อยขึ้น แต่เขาไม่ได้เป็นนักกีฬานะคะ
แถมเจ้าตัวยังได้เผยถึงเรื่องชีวิตแต่งงานไว้ว่า อนาคตของเราคุยกันไว้แล้วว่าไม่คิดจะแต่งงาน เอาจริงๆ เราไม่อยากมีลูก เพราะมีหลานอยู่แล้วต้องบอกเลยล่ะค่ะว่าปัจจุบันของเธอนั้น นับวันยิ่งสวยขึ้นเรื่อย ๆ กว่าตอนเป็นดาราอย่างเห็นได้ชัด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงยังคิดถึงเธอ
เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการเป็นนักร้องนำของวงซับใน วงดนตรีหญิงล้วนเมื่อปี พ.ศ. 2538 จากนั้นเริ่มมีชื่อเสียงจากงานแสดงด้วยการรับบทเป็นตัวประกอบและตัวร้ายจากละครโทรทัศน์เรื่องต่าง ๆ ของช่อง 3 เช่น เรือนมยุรา, พ่อดอกรักเร่, มนต์รักอสูร, สาวน้อยคาเฟ่, นางร้าย, สู่ฝันนิรันดร, รักนอกกรอบ, รัตนมณี, เป็นต่อ เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2547 ได้สร้างความฮือฮาด้วยการถ่ายนู้ดและโชว์รอยสักรูปมังกรขนาดใหญ่ที่แผ่นหลัง จากนั้นในปี พ.ศ. 2550 ได้แสดงภาพยนตร์อิสระเรื่อง ดึกแล้วคุณขา ด้วยการรับบทเป็นนางพยาบาลกะดึก คู่กับ อนันดา เอเวอริ่งแฮม และ อรรถพร ธีมากร จากการกำกับของ สันติ แต้พานิช
ปัจจุบัน เป็นนักสนุกเกอร์และพูลอาชีพ มุ่งมั่นเล่นกีฬาจนได้รับคัดเลือกให้ติดทีมชาติไทย ในปลายปี 2554
ได้รุ่นพี่มาดามใจ
ได้รุ่นพี่มาดามใจ
ได้รุ่นพี่มาดามใจ
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก
https://bit.ly/3DYBREu