“ตงตง” ยอมรับห่าง “เบสท์”

เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักเขาคนนี้กันดีอย่างแน่นอน สำหรับ ตงตง กฤษกร กนกธร หรือ ตงตง เดอะสตาร์ ซีซั่น 12 ที่บอกได้เลยว่าหล่อและดีต่อใจ

ทำเอาหัวใจสาวๆ หวั่นไหวไปตามๆ กัน ซึ่งหลายๆ แต่สิ่งที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเขานั่นก็คือเขาเคยเจอความกดดันของครอบครัวจนกลายเป็นเด็กเกเรมาแล้ว

ล่าสุดแฟนๆใจสลาย! “สมรักษ์ คำสิงห์” โผล่ให้กำลังใจลูกสาว เปิดบ้านเกิด “ตงตง กฤษกร” ตอบห่าง “เบสท์ รักษ์วนีย์” จริง-ยอมรับแมนๆเป็นคนเจ้าชู้

ไม่กดดันคนคาดหวัง คนก็จะมองว่าเอ๊ะ..ทำไมมันไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย… ตงตง ยอมรับเป็นคนเจ้าชู้ เปิดสาเหตุหวานน้อยลง วอนเคารพการตัดสินใจ ไม่ว่าใครเมนต์อะไรคือความรักหวังดี

หลังจากไม่กี่วันวันก่อน เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องแฟนหนุ่มอย่างนักแสดงและนักร้องหนุ่ม ตงตง กฤษกร ว่าถ้าใครมีหลักฐานว่าแฟนของตนเจ้าชู้ให้ส่งมา และถ้าพบว่าเป็นเรื่องจริงก็จะเลิก

ล่าสุด (23 ส.ค.) ตงตง มาร่วมงานเปิดโผคอนเทนต์เด็ดครึ่งปีหลัง 2022 จาก “ช่อง one31” และ “ช่อง GMM25” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าใจในสิ่งที่ฝ่ายหญิง ซึ่งตนยอมรับเป็นคนเจ้าชู้ แต่ตอนนี้หยุดแล้ว

จากประเด็นที่เบสท์พูดในรายการหนึ่ง บอกว่าถ้าตงตงเจ้าชู้จะออกมาจัดการเองเลย? “คือแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผมก็ต้องเคารพการตัดสินใจของน้อง คือเบสท์เขาชัดเจน ด้วยความที่เขาเป็น YouTuber คือจะให้ผมทำยังไง

คือผมแทบจะไม่ได้ดูโซเชียล ก็ได้ดูไฮไลต์บ้างแต่ไม่ได้ดูเต็มๆเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้ฟังมันก็รู้สึกเป็นธรรมชาติของน้อง แต่ผมก็เข้าใจผู้หญิงนะ เขาก็จะทำตามความรู้สึกของเขา เราก็ไม่สามารถที่จะไปห้ามได้”

แล้วจริงๆเราเป็นคนเจ้าชู้เหรอ? “ผมจะบอกทุกคนเสมอนะว่า ผมเป็นคนเจ้าชู้ ผมยอมรับ กับเบสท์ผมก็ยอมรับมาตั้งแต่ตอนแรกเลย พูดกับแม่เขาด้วยว่าผมเป็นคนเจ้าชู้นะ แต่เวลาที่ผมเจอแล้วผมก็จะรู้ว่าควรทำอะไร”

เขาเป็นคนหวงไหม? “ผมว่าผู้หญิงทุกคนก็หวงแหละ เบสท์เองก็หวง เพราะฉะนั้นผมจะทำอะไรได้ก็นอกจากแค่ไม่มากระทบกับงานเราแค่นั้นก็พอ บางคนก็จะบอกว่าผมไปเล่นกับคนนั้นคนนี้ แต่ผมอยากจะให้เข้าใจว่าคือผมอยู่ในอาชีพการงานของผม ผมจะทำยังไงได้ ผมก็ต้องเล่นกับคนอื่น”

เบสท์เขาก็เข้าใจใช่ไหม? “คือค่อนข้างเข้าใจครับ” / ก่อนจะหยุดเจ้าชู้อยู่ที่เบสท์ คบกันแรกๆเคยมีปัญหาอะไรพวกนี้ไหม? “คือเบสท์บอกว่า ถ้าเจ้าชู้ก็คือจะไม่เอา เขาพูดตรงๆ เขาเป็นคนชัดเจน”

2ปีนี้ยังมีอะไรที่จะต้องปรับจูนกันอีกไหม? “มีครับ มันไม่ใช่แค่2ปีหรอก 4ปี 5ปี หรือ 10ปี ยังไงมันก็ต้องปรับจูนกันเพราะว่ามันยังไม่ถึงขั้นจะต้องมีครอบครัวขนาดนั้น ผมว่าผมเองก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย

เบสท์เองก็ต้องอยากเรียนรู้อะไรอีกมากมาย มันก็ต้องปรับจูนกันอีกเรื่อยๆ แล้วมันก็ต้องมีบ้างที่ทะเลาะกันไม่เข้าใจกันมันก็ต้องปรับจูนกัน มันไม่มีใครหรอกที่จะคบกันแล้วเข้าใจกันเลย 100 เปอร์เซ็นต์ มันก็จะต้องมีอุปสรรคหลายๆอย่างเข้ามา”

แล้วเรื่องอะไรที่ส่วนใหญ่มันไม่เข้าใจกัน? “ก็จะเป็นเรื่องของการขี้งอน มันก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่บางครั้งถ้ามันเยอะไปมันก็ต้องมีการพูดคุยกันบ้าง มันจะต้องลดลงได้ไหม มันประมาณนี้ได้ไหม”

แต่ภาพที่ออกมาหลักๆคู่เราจะไปทางสวีตกันมากกว่า? “ใช่หลักๆคนที่ดูเรา เขาก็จะอยากดูแต่สิ่งที่มันมีความสุขเวลาที่ทะเลาะกันเราก็คงไม่ได้ถ่าย เพราะว่าสุดท้ายแล้วผมว่าเรื่องที่ทะเลาะกันมันก็เป็นสิ่งที่ผมกับเบสท์อาจจะต้องมาคุยกันปรับความเข้าใจกันแล้วก็ตัดสินใจกันว่ายังไง

เพราะฉะนั้นผมก็อยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของผม แต่ผมก็เข้าใจนะว่ามีคนรัก ทุกคนก็จะคาดหวังให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ว่าความรักครั้งนี้ของผม ผมไม่สามารถที่จะทำตามในสิ่งที่ทุกคนคาดหวังได้เพราะฉะนั้นมันก็คงไม่ได้เรียกว่าความรักของผมกับเบสท์

ผมก็เลยอยากจะให้เคารพในการตัดสินใจของผมกับเบสท์ บางคนก็จะมองว่าเอ๊ะ..ทำไมมันไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ทำไมไม่มีโมเมนต์หวานๆเหมือนเมื่อก่อนเลย คือผมจะบอกเสมอว่า เมื่อก่อนมันอยู่ในช่วงที่เป็นสถานการณ์โควิดแล้วผมกับเบสท์ก็เลยมีเวลาในการที่ใช้ชีวิต

ได้ถ่ายคลิปให้ทุกคนได้เห็นเยอะพอสมควร แต่พอตอนนี้สถานการณ์มันดีขึ้นมาแล้วผมเองก็มีงานเข้ามา ไหนจะละครสองเรื่อง เบสท์เองก็มีละครด้วย ไหนจะถ่าย YouTube ด้วย เวลาที่เจอกันมันก็น้อยลง โมเมนต์หวานๆมันก็เลยอาจจะไม่มีให้ เหมือนเมื่อก่อน”